ศิลปกรรมจีน
1.เครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบ
ศิลปะที่มีอายุยืนนานที่สุดเริ่มตั้งแต่ปลายยุคหินใหม่ คือ เครื่องปั้นดินเผาลายเขียนสีในวัฒนธรรมหยางเชาและเครื่องปั้นดินเผาสีดำขัดมันเงาในวัฒนธรรมหลงชาน ซึ่งใช้สำหรับพิธีฟังศพและเพื่อประโยชน์ใช้สอยทั่วๆไป
กรรมวิธีการเผา เคลือบ การใช้สี และการวาดลวดลายเครื่องปั้นดินเผา มีพัฒนาการเรื่อยมาและรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์ซ่ง มีการผลิตภาชนะดินเผาแบบพิเศษสำหรับชนชั้นสูงและแบบธรรมดาสำหรับสามัญชนทั่วไปเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันรวมทั้งส่งเป็นสินค้าออกต่างประเทศและได้กลายมาเป็นต้นแบบของเครื่องเคลือบที่เรียกว่า ลายคราม ในสมัยราชวงศ์และได้พัฒนาไปถึงขั้นสูงสุดเป็นเครื่องเบญจรงค์ถ้วยชามในสมัยรางวงศ์หมิง กล่าวคือเป็นลายครามเคลือบสีทั้งห้า สีหลักคือ สีดำ ขาว เหลือง แดง และเขียวหรือคราม อาจจะใช้สีอื่นประกอบได้อีก เช่น สีม่วง ชมพู แสด น้ำตาล
2. เครื่องสำริด
ทำขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บรรพบุรุษ และใช้ในพิธีต่าง ๆ ตลอดจนใช้ในชีวิตประจำวัน ภาชนะสำริดที่เก่าแก่ที่สุดพบในสมัยราชวงศ์ชาง ถือว่าเป็นยุคทองของเครื่องสำริด เครื่องสำริดค่อยๆหมดความสำคัญลงในสมัยราชวงศ์ฮั่นเนื่องจากมีวัสดุอุปกรณ์อื่นเข้ามาแทน เช่น เหล็ก ทองคำ เงิน เครื่องปั้นดินเผา แต่อย่างไรก็ตามเครื่องสำริดยังใช้ในทางพิธีกรรมอยู่
3. เครื่องหยก

4. ประติมากรรม
ส่วนใหญ่เป็นเครื่องปั้นดินเผามีอายุเก่าแก่ตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์ ทำจากดินสีแดง มีลวดลาย แดง ดำ และขาวเป็นลวดลายเรขาคณิต สมัยราชวงศ์ฉินมีการสร้างสุสานของจักรพรรดิจิ๋นซี ทางด้านตะวันออกองเมืองซีอาน ภายในมีการขุดพบประติมากรรมดินเผารูปทหารเท่าคนจริงจำนวนหลายพันรูป และขบวนม้าศึก จัดตามตำราพิชัยสงคราม

งานประติมากรรมดินเผาเริ่มเสื่อมลงในราชวงศ์ฮั่นเนื่องจากมีการนำหินมาสลักแทนและ มีการแกะสลักงาช้าง หินอ่อน และหยกตามความเชื่อและความนิยมของชาวจีน ที่เชื่อว่า หยก ทำให้เกิดความเป็นสิริมงคลในสมัยราชวงศ์ชางสมัยราชวงศ์ถัง ทั้งงานหล่อสำริดและแกะสลักจากหิน ซึ่งมีสัดส่วนงดงาม เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะอินเดียและจีนที่มีลักษณะเป็นมนุษย์มากกว่าเทพเจ้า นอกจากนี้มีพุทธปฏิมาที่นิยมสร้าง คือ พระศรีศากยมุนี พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร พระศรีอริยเมตไตรย พระอมิตาภะ
No comments:
Post a Comment